วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ดอกรักเร่

รักเร่เป็นไม้พุ่ม รากมีลักษณะคล้ายหัว ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขามากมาย ดอกเป็นแบบเดียวกับเบญจมาศ ก้านดอกยาวแข็งแรง กลีบดอก แบ่งออกเป็น2 ตอน กลีบดอกชั้นนอกนี้แผ่กว้างออก หรืออาจจะห่อเป็นหลอดก็ได้แล้วแต่ชนิดของดอก มีเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบรองดอก ด้านในเป็นแผ่นบาง ๆ เรียงกันเป็นระเบียบติดอยู่กับฐานของดอก ส่วนกลีบรองดอกด้านนอบเล็กกว่าด้านใน เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่ ดอกมีหลายสี เช่น ชมพู น้ำเงิน ขาว แดง แสด ส้ม ม่วง และ เหลือง เป็นต้น

ทานตะวัน

ทานตะวัน เป็นพืชปีเดียว (Annual plant) อยู่ในแฟมิลี Asteraceae มีฐานรองกลุ่มดอก (Inflorescence) ขนาดใหญ่ ลำต้นโตได้สูงถึง 3 เมตร ฐานรองกลีบดอกอาจกว้างได้ถึง 30 เซนติเมตร ชื่อ"ทานตะวัน"ถูกใช้อ้างอิงถึงพืชทั้งหมดในจีนัส Helianthus ด้วยเช่นกัน
ทานตะวัน เป็นพืชท้องถิ่นของ
อเมริกากลาง มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่ามีการปลูกดอกทานตะวันในประเทศเม็กซิโกตั้งแต่ประมาณ 2600 ปีก่อนคริสตกาล[1]

ลั่ทมจอหงวน

นทมจอหงวน เป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 3 - 6 เมตร ทุกส่วนมียางขาว ใบเดี่ยว ออกเวียนสลับถี่ๆที่ปลายกิ่ง ใบเป็นรูปใบหอก หรือหอกกลับ ปลายและโคนใบแหลม สีเขียวสด ดอกเป็นสามสีในดอกเดียวกันคือ เหลือง แดง และขาวมีกลิ่นหอมแรง โดยเฉพาะจะแรงมากในช่วงเช้า ออกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยจำนวนมาก กลีบดอกโคนเชื่อมกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็นกลีบดอก 5 กลีบ ซ้อนเหลื่อมกัน ปลายกลีบแหลม หรือมีติ่งแหลม เมื่อดอกบานเส้นผ่าศุนย์กลางประมาณ 5 ซม. มีเกสรตัวผู้ 5 อัน สั้นเวลามีดอกดกทั้งต้นและดอกบานพร้อมกันจะดูสวยงามแบบสามสี มีกลิ่นหอมฟุ้งกระจายทั่วบริเวณใกล้เคียง ผลเป็นฝักคู่ รูปยาวรี ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เมล็ดแบน มีปีก

ปันหยี






.....เป็นไม้เถา เถากลมเกลี้ยงเป็นมัน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ขนาดกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร รูปทรงป้อมปลายแหลม โคนป้าน ขอบใบเรียบ สีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีอ่อน ก้านใบสั้น ดอกออกเป็นช่อเล็ก ๆ ช่อละ 2-3 ดอก สีขาว ออกตามง่ามใบ มีกลีบเลี้ยงเป็นเส้น ๆ สีเขียวอ่อน โคนดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ ส่วนปลายดอกเป็นกลีบ แยกออกเป็น 8-9 กลีบ เรียงซ้อนกัน ดอกเมื่อบานเต็มที่กว้างประมาณ 7 เซนติเมตร ออกดอกประมาณเดือนมกราคม ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือการตอน.....

การเวก


ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ กิ่งก้านค่อนข้างเรียบ มีขนมากเฉพาะที่ตาและยอดอ่อน ใบเป็นประเภทใบเดี่ยวเรียงสลับกัน สัณฐานของใบเป็นรูปรีหรือรูปขอบขนาน ปลายและโคนใบแหลม ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อๆ ละ 1-5 ดอก ก้านช่อดอกแบนและโค้งคล้ายขอ ออกตรงข้ามกับด้านใบ ดอกมีขนาดใหญ่สีเขียวมีขนมาก เมื่อดอกแก่จะเป็นสีเหลือง มีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยงมี 3 กลีบ มีสัณฐานเป็นรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็กสีเขียว ปลายกลีบกระดกขึ้น กลีบดอกเป็นรูปไข่รียาว เรียงเป็น 2 ชั้น ๆ ละ 3 กลีบ มีเกสรตัวผู้จำนวนมาก เกสรตัวเมียหลายอันอยู่แยกกัน ผลรูปรีป้อมหรือรูปไข่กลับ ออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 4-20 ผล เมื่อผลแก่จะเป็นสีเหลือง ออกดอกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยการตอนกิ่งหรือเพาะเมล็ด .....

วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ต้นไม้ดอกไม้1

ผกากรองเป็นไม้พุ่มขนาดเล็กสูงประมาณ ๒ - ๖ ฟุต ขึ้นได้ในดินทุกชนิด ชอบแล้งมากกว่าแฉะ ชอบแสงแดดจัด นิยมปลูกเป็นไม้ประดับเพื่อดูดอกเพราะผกากรองให้ดอกสวยและดกตลอดปีใบเป็นรูปไข่ ริมใบหยักเป็นจัก ใบคายสากมือ มีกลิ่นเหม็น ดอกมีขนาดเล็กออกเป็นกระจุก ขนาดโตประมาณ ๑.๕ นิ้ว มีหลายสี เช่น เหลืองอ่อน แดง ขาว ม่วง ชมพู เหลืองเข้ม การขยายพันธุ์ ใช้วิธีเพาะเมล็ด หรือตัดกิ่งปักชำ สรรพคุณทางสมุนไพร ใบตำพอกแผล ฝีพุพอง ใบต้มน้ำอุ่นอาบ หรือแช่แก้โรคปวดข้อ

ต้นไม้ดอกไม้1


จำปาเป็นพุ่มไม้ขนาดกลาง ดอกสีเหลืองอมส้ม เรียกว่าสีจำปา ดอกจำปาใหญ่กว่าจำปี แต่ต้นจำปาไม่ทนน้ำเท่าจำปี ไม่ควรปลูกในที่ลุ่มมีน้ำขัง ไทยมีจำปาอีกชนิดหนึ่ง เรียก จำปาขาว เชื่อว่าพ่อขุนบางกลางหาวปลูกไว้ที่วัดในอำเภอนครไทย พิษณุโลก ปัจจุบัน ( ๒๕๓๙) ยังยืนต้นอยู่ มีขนาดโอบไม่รอบ แต่เป็นโพรงเพราะอายุมาก

ผู้ติดตาม